คุณสมบัติของฉนวนพียูโฟมที่ช่วยกันความร้อน - วัสดุฉนวนที่ดีที่สุดสำหรับอาคารและโรงงาน
ฉนวนพียูโฟม (PU Foam - Polyurethane Foam) เป็นหนึ่งในวัสดุฉนวนกันความร้อนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการป้องกันความร้อน ลดเสียงรบกวน และช่วยประหยัดพลังงาน
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึง คุณสมบัติของฉนวนพียูโฟมที่ช่วยกันความร้อน และทำไมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาคาร บ้านพักอาศัย โรงงานอุตสาหกรรม และโครงสร้างอื่น ๆ
1. ฉนวนพียูโฟมคืออะไร?
ฉนวนพียูโฟม เป็นวัสดุโพลียูรีเทนที่มีโครงสร้างเป็นฟองอากาศขนาดเล็ก ทำให้มีคุณสมบัติเป็น ฉนวนกันความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยสามารถพ่นเคลือบบนพื้นผิวต่างๆ เช่น หลังคาเมทัลชีท, ผนัง, พื้นโรงงาน และห้องเย็น
2. คุณสมบัติของฉนวนพียูโฟมที่ช่วยกันความร้อน
2.1 ค่าการนำความร้อนต่ำ (Low Thermal Conductivity)
หนึ่งในคุณสมบัติหลักของฉนวนพียูโฟมคือ ค่าการนำความร้อนต่ำมาก ซึ่งหมายความว่า พียูโฟมสามารถป้องกันความร้อนได้ดี และลดอุณหภูมิภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ค่าการนำความร้อนของพียูโฟม (PU Foam) อยู่ที่ประมาณ 0.02 - 0.03 W/mK
• เปรียบเทียบกับฉนวนใยแก้ว (~0.04 W/mK) และโฟมโพลีสไตรีน (~0.035 W/mK) จะเห็นได้ว่าพียูโฟมให้ฉนวนกันความร้อนที่ดีกว่า
ด้วยคุณสมบัตินี้ พียูโฟมช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคาร ทำให้ช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศและช่วยประหยัดพลังงาน
2.2 ป้องกันความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV
พียูโฟมสามารถสะท้อนความร้อนและรังสี UV ได้ดี โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งบนหลังคาเมทัลชีท หรือหลังคาประเภทอื่น ๆ
ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารได้ 5-10°C
ป้องกันการขยายตัวของโลหะจากความร้อน
ช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างอาคาร
2.3 ลดการสะสมความร้อนในอาคาร (Heat Retention Control)
เมื่ออาคารโดนความร้อนเป็นเวลานาน วัสดุบางชนิดอาจ สะสมความร้อนและคายออกมาภายในอาคารในช่วงเย็น ส่งผลให้อุณหภูมิภายในยังคงร้อนแม้ดวงอาทิตย์จะตกแล้ว
ฉนวนพียูโฟมช่วยลดการสะสมความร้อน ได้ดีเยี่ยม
ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในช่วงกลางคืน
ทำให้สภาพแวดล้อมในอาคารเย็นขึ้นและอยู่สบายขึ้น
2.4 ไม่มีรอยต่อ ลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างรอยต่อ (Seamless Insulation)
ฉนวนพียูโฟมมีลักษณะพิเศษคือสามารถ พ่นเป็นชั้นเรียบเนียนได้โดยไม่มีรอยต่อ ต่างจากฉนวนประเภทแผ่นที่ต้องมีรอยต่อระหว่างแผ่น ซึ่งอาจเป็นจุดที่ความร้อนเล็ดลอดเข้ามาได้
ไม่มีรอยต่อ ป้องกันความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ
ลดการเกิดรอยรั่วของฉนวนกันความร้อน
เหมาะสำหรับโครงสร้างหลังคาและผนังที่ต้องการฉนวนต่อเนื่อง
2.5 คงทนและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ฉนวนพียูโฟมสามารถใช้งานได้นานกว่า 10-20 ปี โดยไม่เสื่อมสภาพเร็วเหมือนฉนวนบางประเภท
ไม่ยุบตัว ไม่เสียรูปง่าย
ทนต่อความร้อนและรังสี UV
ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
2.6 ช่วยลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้า
จากคุณสมบัติทั้งหมดของฉนวนพียูโฟมที่ช่วยกันความร้อน ทำให้สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
• ช่วยให้บ้านและอาคารเย็นขึ้นโดยไม่ต้องเปิดแอร์แรง
• ประหยัดพลังงานได้มากถึง 30-50%
3. เปรียบเทียบฉนวนพียูโฟมกับฉนวนกันความร้อนประเภทอื่น
คุณสมบัติ | ฉนวนพียูโฟม | ใยแก้ว | โฟมโพลีสไตรีน |
---|---|---|---|
ค่าการนำความร้อน (W/mK) | 0.02 - 0.03 | 0.04 | 0.035 |
กันความร้อนจากแสงแดด | ดีเยี่ยม | ปานกลาง | ดี |
อายุการใช้งาน | 10-20 ปี | 5-10 ปี | 7-15 ปี |
กันน้ำและความชื้น | ดีเยี่ยม | ดูดซับน้ำได้ | ดี |
น้ำหนัก | เบามาก | ปานกลาง | เบา |
จากตารางนี้จะเห็นได้ว่า ฉนวนพียูโฟมมีประสิทธิภาพเหนือกว่าฉนวนประเภทอื่นในหลายด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันความร้อนและอายุการใช้งาน
4. การติดตั้งฉนวนพียูโฟมเพื่อลดความร้อน
ขั้นตอนการติดตั้งฉนวนพียูโฟม
1. ทำความสะอาดพื้นผิว ที่ต้องการติดตั้ง
2. ฉีดพ่นโฟม บนพื้นที่ต้องการ โดยใช้เครื่องพ่นแรงดันสูง
3. โฟมจะขยายตัวและแข็งตัวภายในไม่กี่วินาที
4. ทิ้งไว้ให้แห้งและแข็งตัวเต็มที่ ก่อนใช้งาน
5. สรุป - ทำไมควรเลือกฉนวนพียูโฟมเพื่อลดความร้อน?
ป้องกันความร้อนสูงสุด ลดอุณหภูมิภายในอาคารได้ดี
ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 50%
ไม่มีรอยต่อ ลดการถ่ายเทความร้อน
ทนทาน อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10-20 ปี
เหมาะสำหรับหลังคา, ผนัง, ห้องเย็น, โรงงานอุตสาหกรรม
หากคุณกำลังมองหาฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ฉนวนพียูโฟมคือคำตอบ! ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาและใบเสนอราคาได้เลย!